43% เห็นด้วย
ตั้ง กมธ. วิสามัญ ศึกษาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดการรัฐประหารขึ้นอีกในอนาคต
จากกรณี ส.ส. พรรคฝ่ายค้าน ยกประเด็นว่าการรัฐประหาร 2 ครั้งล่าสุดเป็นต้นเหตุของการเกิดวิกฤติการการเมือง ที่ผ่านมาประเทศไทยไม่ใช้วิถีทางประชาธิปไตยในการแก้ไขปัญหาการเมือง แต่กลับใช้การรัฐประหาร เกิดการแตกขั้วทำลาย ความชอบธรรมจากการเลือกตั้งและความชอบธรรมจากการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ดังนั้นจึงอยากให้พิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดรัฐประหารขึ้นอีกในอนาคต ประกาศศักดิ์ศรีของผู้แทนราษฎรว่าจะไม่ยอมจำนนต่อคณะรัฐประหาร และไม่ใช่ผู้แทนของคณะรัฐประหาร อีกทั้งญัตตินี้ไม่มีผลต่อความมั่นคงของรัฐบาล ไม่กระทบการทำงานของรัฐบาลที่ยังบริหารงานต่อไปได้
ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเสียงข้างมาก 242 เสียง ไม่เห็นชอบให้มีการตั้ง กมธ.ศึกษาแนวทางป้องกันรัฐประหารฯ ดังกล่าว โดยมีผู้เห็นชอบจำนวน 216 เสียง งดออกเสียง 2 ราย จากจำนวนผู้เข้าประชุม 460 ราย
เห็นด้วย 216 ไม่เห็นด้วย 242 งดออกเสียง 2 ไม่ลงคะแนน 38 20.2.2020
2% เห็นด้วย
ตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาโครงการจัดตั้งกระทรวงการข้าว
ด้วยปัจจุบันประชากรส่วนใหญ่ของประเทศประกอบอาชีพเกษตรกรรม แต่กลับมีฐานะยากจนและถูกเอารัดเอาเปรียบมาโดยตลอด อีกทั้งการบริหารจัดการข้าวในอดีตเป็นภารกิจที่อยู่ในความรับผิดชอบของหลายหน่วยงาน ทำให้ไม่สามารถบริหารจัดการข้าวได้อย่างมีระบบและครบวงจร จนเกิดช่องว่างระหว่างภาคการผลิต การแปรรูป และการจำหน่าย ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และความมั่นคงของประเทศ
จึงมีญัตติขอเสนอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาโครงการจัดตั้งกระทรวงการข้าว แต่เนื่องจากสมาชิกมีความเห็นต่าง ให้ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ ประธานได้ขอมติที่ประชุม
ซึ่งที่ประชุมลงมติเห็นด้วย 343 เสียง ให้ส่งคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ต่อไป
เห็นด้วย 10 ไม่เห็นด้วย 343 งดออกเสียง 2 ไม่ลงคะแนน 142 16.1.2020
71% เห็นด้วย
ตั้ง กมธ. วิสามัญ ตรวจสอบโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่
จากกรณีที่สังคมตั้งคำถามว่า การก่อสร้างรัฐสภาใหม่ ที่สำนักงานเลขาธิการสภาฯ ว่าจ้างบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) วงเงิน 1.2 หมื่นล้านบาท สัญญาหลัก 900 วัน ที่ต้องแล้วเสร็จ 24 พ.ย. 2558 นั้น มีเหตุผลอย่างไรที่ทำการก่อสร้างไม่แล้วเสร็จและต้องต่อสัญญาไปอีก 4 ครั้ง ทำให้รวมเวลาก่อสร้างอาคารทั้งหมดกว่า 2,000 วัน ทั้งนี้ มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุผลที่อ้างเพื่อขยายสัญญาก่อสร้างให้ผู้รับจ้างนั้น เพราะมีการแก้ไขแบบ ทั้งๆ ที่เทคโนโลยีสมัยใหม่สามารถแก้ไขแบบได้โดยใช้เวลาไม่นาน มีเจตนาทำให้แบบมีปัญหาหรือไม่ เพื่อใช้เป็นข้ออ้างให้ผู้ว่าจ้างขยายสัญญาโดยผู้รับจ้างไม่ได้กระทำผิดกฎหมาย
ที่ประชุมสภาฯ มีมติเห็นชอบให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ 354 เสียง และงดออกเสียง 2 เสียง โดยมีกรอบระยะเวลาดำเนินงาน 60 วัน ทั้งนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ได้แจ้งให้ทราบด้วยว่า ตนให้เลขาธิการสภาฯ ศึกษากระบวนการใช้พื้นที่อาคารรัฐสภา ซึ่งเป็นเรื่องของการเตรียมการไว้ในอนาคตด้วย
เห็นด้วย 354 ไม่เห็นด้วย 0 งดออกเสียง 2 ไม่ลงคะแนน 142 21.12.2019
82% เห็นด้วย
ตั้ง กมธ.วิสามัญ ตรวจสอบละเมิดสิทธิมนุษยชน
จากกรณีการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนและถูกประทุษร้ายของประชาชน โดยเฉพาะปัญหาความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ส.ส. หลายพรรคเห็นว่าเกิดจากข้อผิดพลาดเรื่องการกำหนดนโยบายรัฐบาลทั้งอดีตและปัจจุบัน รวมถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชน ที่มีการละเมิดสิทธิการเคลื่อนไหวการต่อสู้ เพื่อเรียกร้องสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญทั่วประเทศนั้นก็เกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่กลับหาตัวผู้ทำผิดหรือผู้อยู่เบื้องหลังมาลงโทษไม่ได้
สภาผู้แทนราษฎร จึงเห็นชอบตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อตรวจ สอบและศึกษา ติดตามการทำงานของหน่วยงานภาครัฐต่อการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนและถูกประทุษร้ายของประชาชน เพื่อตรวจสอบและติดตาม
เห็นด้วย 411 ไม่เห็นด้วย 0 งดออกเสียง 2 ไม่ลงคะแนน 84 19.12.2019
1% เห็นด้วย
ตั้ง กมธ.วิสามัญ ศึกษาผลกระทบจาก ม. 44
จากญัตติด่วนให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจาก ม.44 ที่คงอยู่หลังช่วงรัฐประหาร ในวันที่ 27 พ.ย. 2562 ที่ประชุมได้ลงมติให้ตั้ง กมธ. วิสามัญเพื่อพิจารณาญัตติดังกล่าว ผลการลงมติ
เห็นชอบด้วยคะแนนเสียง 236 เสียง ไม่เห็นชอบด้วยคะแนนเสียง 231 เสียง และงดออกเสียง 2 เสียง แต่นายวิรัช รัตนเศรษฐ (พรรคพลังประชารัฐ) เสนอญัตติขอให้นับคะแนนใหม่ โดยมีผู้รับรองถูกต้อง นายชวน
หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร แจ้งต่อที่ประชุมว่าสมาชิกสามารถใช้สิทธิให้นับคะแนนใหม่ได้ ตามข้อบังคับฯ ข้อ 85 โดยเปลี่ยนวิธีการนับคะแนนใหม่เป็นวิธีเรียกชื่อสมาชิกตามหมายเลขประจำตัวสมาชิก ตาม
ข้อบังคับฯ ข้อ 83 (2) ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านได้อภิปรายไม่เห็นด้วย และมีการเดินออกจากห้องประชุม (walk out) ทำให้องค์ประชุมไม่ครบ ญัตติดังกล่าวได้รับการพิจารณาอีกครั้งในวันรุ่นขึ้น แต่ก็ไม่ครบองค์ประชุม เพราะฝ่ายค้านขอคงจุดยืนไม่ร่วมนับใหม่ ทำให้ไม่สามารถลงมติได้ ญัตติดังกล่าว ได้รับการพิจารณาอีกครั้งในวันที่ 4 ธันวาคม 2562 ผลการนับคะแนนปรากฎว่า ที่ประชุมลงมติเห็นด้วย 5 คน ไม่เห็นด้วย 244 คน และงดออกเสียงอีก 6 คน ทำให้ที่ประชุมมีมติ ไม่ตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาผลกระทบจากประกาศ และคำสั่งของ คสช. และการใช้อำนาจของหัวหน้าคสช. ตามมาตรา 44
เห็นด้วย 5 ไม่เห็นด้วย 244 งดออกเสียง 6 ไม่ลงคะแนน 243 4.12.2019